ทำไมตัดแว่นใหม่ มีอาการไม่สบายตา ปวดหัว พื้นลอย เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง ?

ตัดแว่นมาใหม่ แว่นไม่ชัดหรือผิดที่ตาเรา
เสียเงินแล้วแต่การมองเห็นไม่ดีขึ้นหรือชัดขึ้น มีอาการไม่สบายตา ปวดหัว พื้นลอย เกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง ?

การตัดแว่นมีหลากหลายปัจจัยที่ห้ามละเลย และ ยังต้องใส่ใจอย่างละเอียด
เพราะฉะนั้นจะคิดว่าตัดที่ไหนก็เหมือนกันไม่ได้ การตัดแว่นควรได้รับการวัดสายตาที่ถี่ถ้วนโดยนักทัศนมาตร ถ้าพึ่งตัดแว่นสายตามาใหม่แต่ดันใส่แล้วการมองเห็นยังไม่ดีขึ้น แถมซ้ำยังอาการไม่สบายตา ปวดหัว ตาล้า คุณอาจจะพบเจอปัญหาแว่นที่ไม่เหมาะกันค่าสายตาก็เป็นได้

1. เช็คค่าสายตาผิด !!! ทำให้จ่ายค่าสายตาผิด
เพราะการจ่ายค่าสายตาที่น้อยเกินไปก็จะส่งผลทำให้มองเห็นภาพไม่คมชัด แต่ถ้าส่วนจ่ายค่าสายตาที่มากเกินไปอาจมองได้คมชัด แต่ชัดเกินที่สายตารับไหวส่งผลให้กล้ามเนื้อตาและเลนส์แก้วตาต้องทำงานอย่างหนักทำให้เวลาใส่แว่นไม่สบายตา ปวดตา และอาจนำไปสู่อาการปวดหัวได้อีกด้วย

2. วางจุดเซ็นเตอร์เลนส์ของแว่นไม่ตรงกับเซ็นเตอร์ของตา
สาเหตุนี้ไม่มีผลต่อความคมชัด แต่มีผลโดยตรงต่อความไม่สบายตาและสุขภาพตา ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาทำงานผิดปกติจนนำไปสู่อาการปวดตา ปวดหัวและอาจรุนแรงถึงขั้นเห็นภาพซ้อน

3. ระยะห่างระหว่างเลนส์แว่นตาถึงกระจกตาไม่เหมาะสม (Cornea Vertex Distance)
Cornea Vertex Distance มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อความชัดและสิ่งที่เรียกว่า Spatial Distortion หรือความบิดเบือนของภาพเวลามองผ่านเลนส์ (ภาพเบี้ยว/หด/บวม) โดยปกติค่า Cornea Vertex Distance (CVD) มาตรฐานจะอยู่ที่ 12 มิลลิเมตร (ไม่ควรสูงกว่า 14 mm หรือต่ำกว่า 12 mm) ในกรณีที่มีค่าสายตาสูง หาก Cornea Vertex Distance (CVD) ยิ่งห่างจากค่ามาตรฐานมาก ความคมชัดอาจลดลงและความบิดเบือนของภาพเวลามองผ่านเลนส์จะมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าไม่สามารถตั้งค่า CVD ให้อยู่ในค่ามาตรฐานได้โดยการปรับดัดแว่น เนื่องจากมีข้อจำกัดทางสรีระบนใบหน้าหรือข้อจำกัดของทรง วัสดุ และขนาดของกรอบแว่นตานั้น การเลือกใช้เลนส์ที่มีโครงสร้างเฉพาะบุคคลจะช่วยลดความเบลอและภาพบิดเบือนได้

4. ขนาดของเลนส์หน้าแว่นที่ใหญ่เกินไป (Frame Size) สำหรับคนที่มีค่าสายตาสูง
เลนส์ที่มีค่าสายตาสูง บริเวณขอบเลนส์จะมีความหนาและภาพบิดเบือนที่รุนแรง ต่างจากตรงบริเวณกลางเลนส์ที่บางและภาพบิดเบือนน้อยกว่า เลนส์จึงมีคุณภาพของภาพที่ดีเฉพาะบริเวณเซ็นเตอร์เท่านั้นและจะแย่ลงเมื่อมีการมองหลุดเซ็นเตอร์หรือมองบริเวณขอบๆเลนส์

5. เลือก Index เลนส์ไม่เหมาะสม
ในเคสที่สายตาเยอะ เลนส์มักจะมีความหนามาก เหมือนเวลาที่เรามองผ่านแก้วน้ำใสที่มีความหนามากๆจะเห็นว่าภาพมีความบิดเบี้ยว ดังนั้นการเลือกเลนส์ Index สูงๆจะช่วยให้เลนส์บางขึ้นและลดความบิดเบือนของภาพให้น้อยลงได้

6. โครงสร้างเลนส์ไม่เหมาะสมกับค่าสายตา
เคสที่มีค่าสายตาซับซ้อนเช่น สั้น+เอียงเยอะๆ การควบคุมปัจจัยข้อ 1-5 อาจยังไม่เพียงพอต่อการเป็นแว่นที่ใส่แล้วชัดสบายตาที่สุด เพราะการเลือกโครงสร้างเลนส์ระดับสูงที่ช่วยลดภาพบิดเบือนความเบี้ยวได้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยคุณสมบัติเหล่านี้จะมีเฉพาะในเลนส์รุ่น Multigressive และ รุ่น Individual เท่านั้น